เปิดตัว HUAWEI Watch Ultimate 2

HUAWEI Watch Ultimate 2 มาในสองสีสุดพรีเมียมคือ สีดำ (Black) และสีน้ำเงิน (Blue) โดยทั้งสองรุ่นใช้วัสดุตัวเรือนเป็น โลหะเหลวฐานเซอร์โคเนียม (zirconium-based liquid metal) ที่มีความทนทานสูง และหน้าปัดกระจกแซฟไฟร์ (Sapphire Glass)

• สีดำ: ขนาด 48.5 มม. มาพร้อมสายฟลูออโรอีลาสโตเมอร์สีดำ
• สีน้ำเงิน: ขนาด 47.8 มม. มาพร้อมสายไทเทเนียม และสายฟลูออโรอีลาสโตเมอร์สีน้ำเงิน-ขาว สำหรับเปลี่ยน

ในส่วนของหน้าจอเป็นแผง LTPO 2.0 AMOLED ขนาด 1.5 นิ้ว ความละเอียด 466 x 466 พิกเซล ที่น่าทึ่งคือสามารถเร่งความสว่างได้สูงสุดถึง 3,500 nits ทำให้มองเห็นได้อย่างคมชัดแม้กลางแดดจ้า

ที่สุดแห่งฟีเจอร์ดำน้ำ: ส่งข้อความใต้น้ำด้วยโซนาร์

นี่คือไฮไลท์สำคัญของ Watch Ultimate 2 โดยเป็น สมาร์ทวอทช์รุ่นแรกที่รองรับการดำน้ำลึกสูงสุดถึง 150 เมตร มาพร้อมฟีเจอร์เด็ดที่ไม่เคยมีมาก่อน:

• Sonar-based Communication: ใช้เทคโนโลยีโซนาร์ในการ ส่งข้อความใต้น้ำได้ลึกถึง 30 เมตร สามารถเพิ่มเพื่อนนักดำน้ำได้สูงสุด 50 คน
• Underwater Audio: มีโครงสร้างกันน้ำที่รองรับฟีเจอร์เสียงใต้น้ำ
• โหมดดำน้ำหลากหลาย: รองรับทั้ง Recreational, Technical, Scuba, และ Free dive พร้อมแสดงข้อมูลการดำน้ำแบบเรียลไทม์ เช่น ความลึก, เวลา, ความเร็ว, NDL, และ PO2

ฟีเจอร์สุขภาพและการเชื่อมต่ออัจฉริยะ

• X-Tap Control: เซ็นเซอร์ใหม่ที่อยู่ระหว่างเม็ดมะยม ใช้สำหรับเข้าถึงข้อมูลสุขภาพ เช่น อัตราการเต้นของหัวใจ และ ECG ได้อย่างรวดเร็ว
• eSIM Calling: รองรับการโทรออกได้โดยตรงจากนาฬิกา พร้อม AI ช่วยตัดเสียงรบกวน
• Expedition Mode: โหมดผจญภัยที่สามารถนำเข้าเส้นทางและดาวน์โหลดแผนที่ออฟไลน์ได้ ทำงานร่วมกับ Sunflower Positioning System เพื่อความแม่นยำในการระบุตำแหน่ง
• ฟังก์ชันอื่นๆ: ตรวจจับการล้ม (Fall Detection), ควบคุมกล้อง Action Camera, ติดตามการตีกอล์ฟ, รองรับการชำระเงิน และ AppGallery

แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนาน

• ใช้งานเบาๆ: สูงสุด 11 วัน
• ใช้งานทั่วไป: สูงสุด 6 วัน
• เปิด Always-On Display: สูงสุด 4 วัน

ราคาและการวางจำหน่าย

HUAWEI Watch Ultimate 2 จะเริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในเดือนตุลาคม 2568 นี้ โดยราคายังไม่ถูกประกาศออกมา แต่สำหรับผู้ที่ลงทะเบียนความสนใจล่วงหน้าจะได้รับส่วนลด 10% หรือคูปองมูลค่า £100 (ประมาณ 4,700 บาท)

สำหรับราคาและการวางจำหน่ายในประเทศไทย ต้องรอการประกาศจาก Huawei ประเทศไทยอีกครั้ง