ตามข้อมูลล่าสุด iPhone 17 Air จะมีตัวเครื่องที่บางเฉียบเพียง 5.5 - 5.65 มม. และมีน้ำหนักเบาแค่ 145 กรัม เท่านั้น ซึ่งถือว่าเบากว่า iPhone รุ่นมาตรฐานในปัจจุบันอย่างมาก
สำหรับสีสันที่คาดว่าจะเปิดตัวมี 4 สี ได้แก่:
สีดำ (Black)
สีเงิน (Silver)
สีทองอ่อน (Light Gold): จะเป็นโทนสีทองที่ดูนุ่มนวล ไม่ใช่สีทองที่ฉูดฉาด
สีฟ้าอ่อน (Light Blue): แหล่งข่าวระบุว่าจะเป็นสีฟ้าที่ "อ่อนมากๆ" จนแทบจะมองเป็นสีขาวในบางสภาพแสง
คอนเซ็ปต์ของสีสันดูเหมือนจะสอดคล้องกับธีมหลักของตัวเครื่อง คือการเน้นความเบาและโปร่งสบาย
แม้จะเป็นรุ่นที่ไม่ใช่ Pro แต่มีรายงานว่า iPhone 17 Air จะได้รับการอัปเกรดประสิทธิภาพครั้งสำคัญ:
ชิป A19 Pro: คาดว่าจะใช้ชิป A19 Pro แต่เป็นเวอร์ชันที่ลดทอนประสิทธิภาพลงเล็กน้อย (เช่น จำนวนคอร์ GPU) เมื่อเทียบกับรุ่น iPhone 17 Pro และ Pro Max อย่างไรก็ตามนับว่าเป็นการยกระดับขึ้นอย่างมากจากชิปใน iPhone 16 Plus
RAM: จะได้รับ RAM ในปริมาณที่ เทียบเท่ากับรุ่น Pro ซึ่งจะช่วยให้การทำงานโดยรวมและการสลับแอปพลิเคชันลื่นไหลยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตามแม้ตัวเครื่องจะเน้นการออกแบบที่เน้นความบางและเบาเป็นพิเศษ ย่อมมาพร้อมกับข้อแลกเปลี่ยนที่สำคัญ 2 ประการ
กล้องหลังเดี่ยว: เพื่อให้ตัวเครื่องบางได้ขนาดนี้ มีความเป็นไปได้สูงว่า iPhone 17 Air จะมีกล้องหลังเพียงตัวเดียวเท่านั้น
ความจุแบตเตอรี่: แหล่งข่าวใช้คำว่า "laughable battery capacity" ซึ่งหมายถึงความจุแบตเตอรี่ที่อาจจะน้อยลงอย่างน่าเป็นห่วง เพื่อให้สามารถใส่ลงในบอดี้ที่บางเฉียบได้
ทั้งนี้ ต้องบอกโดยสรุปว่า iPhone 17 Air ดูเหมือนจะเป็นอุปกรณ์ที่ถูกสร้างมาเพื่อผู้ใช้เฉพาะกลุ่ม ที่ให้ความสำคัญกับดีไซน์ ความบาง และความเบาในการพกพาเป็นอันดับแรก และพร้อมที่จะยอมแลกความสามารถรอบด้านของกล้องและความอึดของแบตเตอรี่ออกไป ต้องรอติดตามกันต่อไปว่าแนวทางนี้จะถูกใจตลาดหรือไม่