HTC ซึ่งเคยทุ่มเทให้กับอุปกรณ์ VR มานานหลายปีด้วยชุดหูฟังซีรีส์ Vive ได้ก้าวเข้าสู่ตลาดใหม่ด้วยการเปิดตัว แว่นตา AI "HTC Vive Eagle" โดยมีเป้าหมายเพื่อเป็นคู่แข่งกับ Ray-Ban Meta ด้วยรูปลักษณ์ที่เหมือนแว่นตาธรรมดา แต่มาพร้อมกล้อง FPV, ฟีเจอร์ AI ในตัว และลำโพงสเตอริโอ
Vive Eagle มีให้เลือกหลายสี เช่น ดำ, เบอร์รี, คอฟฟี่ และเทา ตัวแว่นมาพร้อมกล้องอัลตร้าไวด์ความละเอียด 12MP ที่สามารถถ่ายภาพความละเอียด 3,024 x 4,032 พิกเซล และวิดีโอ 1,512 x 2,016 พิกเซล ที่ 30fps มีไฟ LED ที่กรอบแว่นด้านขวาเพื่อแจ้งเตือนว่ากำลังบันทึกภาพ
แว่นตานี้ใช้ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon AR1 Gen 1 พร้อม RAM 4GB และพื้นที่เก็บข้อมูล 32GB มีน้ำหนักเบาเพียง 49 กรัม และเลนส์ที่ใช้เป็นของ Zeiss นอกจากนี้ยังผ่านมาตรฐานกันน้ำและฝุ่น IP54 รวมถึงรองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 6E และ Bluetooth 5.3 และสามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ตโฟน iOS 17.6+ หรือ Android 10+ ผ่านแอป Vive Connect
HTC ได้นำผู้ช่วยเสียง Vive AI ที่สามารถทำงานร่วมกับ Google Gemini และ ChatGPT มาใช้กับแว่นตารุ่นนี้ด้วย นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์แปลภาษาแบบเรียลไทม์ที่รองรับ 13 ภาษา และการแปลงข้อความให้เป็นเสียงพูด แบตเตอรี่มีความจุ 235mAh สามารถใช้งานได้นานสูงสุด 36 ชั่วโมงในโหมดสแตนด์บาย, เล่นเพลงต่อเนื่อง 4.5 ชั่วโมง และคุยสายได้ 3 ชั่วโมง รองรับการชาร์จแม่เหล็กที่ให้มาในกล่อง ซึ่งสามารถชาร์จได้ 50% ใน 10 นาที
สรุปข่าว: HTC ได้เปิดตัวแว่นตา AI Vive Eagle เพื่อแข่งขันกับ Ray-Ban Meta มาพร้อมดีไซน์แบบแว่นตาธรรมดาแต่มีฟีเจอร์ล้ำสมัย เช่น กล้อง 12MP, ชิป Snapdragon AR1 Gen 1, และลำโพงสเตอริโอในตัว รวมถึงผู้ช่วยเสียง Vive AI ที่เชื่อมต่อกับ Google Gemini และ ChatGPT ได้ โดยมีราคาอยู่ที่ 15,600 ดอลลาร์ไต้หวัน (ประมาณ 19,000 บาท) และจะเริ่มวางจำหน่ายในไต้หวันวันที่ 1 กันยายนนี้