เทรนด์สมาร์ทโฟนดีไซน์บางเฉียบกำลังจะกลับมาในปี 2025 และล่าสุด ZTE ได้ส่ง nubia Air เข้าสู่ตลาดอย่างเป็นทางการ โดยมีจุดขายสำคัญที่สุดคือตัวเครื่องที่บางเบาเป็นพิเศษ ด้วย ความหนาเพียง 6.7 มม. และมีจุดที่บางที่สุดบนขอบเครื่อง วัดได้แค่ 5.9 มม. เท่านั้น
ไม่เพียงแค่บาง แต่ตัวเครื่องยังมีน้ำหนักเบาเพียง 172 กรัม เท่านั้น แต่สิ่งที่น่าทึ่งคือ ถึงแม้จะดูบอบบาง แต่ nubia Air กลับมาพร้อมมาตรฐานการป้องกันขั้นสูง IP68/IP69K ที่สามารถกันฝุ่นและทนทานต่อการฉีดน้ำแรงดันสูงที่มีอุณหภูมิร้อนจัดได้สบายๆ
nubia Air มาพร้อมหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด 1,224 × 2,720 พิกเซล ให้ภาพที่คมชัดสวยงาม และมีอัตรารีเฟรชเรต 120Hz เพื่อการใช้งานที่ลื่นไหล นอกจากนี้ยังโดดเด่นด้วย ความสว่างสูงสุดถึง 4,500 nits ทำให้ใช้งานกลางแจ้งได้ดีเยี่ยม ครอบทับด้วยกระจกป้องกัน Gorilla Glass 7i บริเวณด้านล่างของจอมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือฝังอยู่ ส่วนด้านบนเป็นดีไซน์เจาะรูสำหรับกล้องหน้า
สเปคกล้องและประสิทธิภาพ
ด้านประสิทธิภาพภายใน ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต Unisoc T8300 จับคู่กับ RAM 8GB และหน่วยความจำภายใน 256GB
แบตเตอรี่และการชาร์จ
แม้ตัวเครื่องจะบาง แต่ nubia Air ก็ให้แบตเตอรี่มาจุใจถึง 5,000mAh รองรับการใช้งานตลอดวัน และรองรับระบบชาร์จไว 33W
สี ราคา และการวางจำหน่าย (มีลุ้นเข้าไทย!)
nubia Air มีให้เลือก 3 สีสัน ได้แก่ Titanium Black (ดำไทเทเนียม), Streamer Black (ดำสตรีมเมอร์), และ Titanium Desert (ไทเทเนียมเดสเสิร์ท)
จะเริ่มวางจำหน่ายใน ยุโรปเป็นที่แรกด้วยราคา €250 หรือคิดเป็นเงินไทย ประมาณ 10,290 บาท (อ้างอิงอัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ 5 กันยายน 2025)
หลังจากนั้นจะขยายการวางจำหน่ายไปยัง เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Southeast Asia), ละตินอเมริกา และตะวันออกกลาง ซึ่งนับเป็นข่าวดีที่แฟนๆ ชาวไทยจะได้รอติดตามกำหนดการวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการต่อไป คาดว่า nubia Air มีโอกาสเข้าไทย สูงมากในเร็วๆ นี้
ดีไซน์และตัวเครื่อง:
หน้าจอ:
ประสิทธิภาพ:
กล้อง:
แบตเตอรี่และการชาร์จ: