ในที่สุด OnePlus ได้เผยโฉม OnePlus 11 มือถือเรือธงของค่ายและมีชื่อเล่นๆ ว่า Flagship Killer อีกเช่นเคย และพร้อมกับหูฟัง OnePlus Buds Pro 2 โดยรอบนี้ได้ Jackson Wang เป็นพรีเซนเตอร์ แต่วันนี้เราจะไม่ได้เจาะลึกพรีเซนเตอร์รายนี้เพราะต้องมาดูว่าสเปกที่วางขายทั่วโลกกับในประเทศจีนต่างกันแค่ไหน
สำหรับ OnePlus 11 จะมาพร้อมกับหน้าจอ Fluid AMOLED LTPO3 พร้อมกับ Refresh Rate 120Hz แบบ Adative แต่ไม่บอกว่าตั้งแต่เท่าไหร่ ความสว่างอยู่ที่ 1,300 nits
กล้องด้านหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ส่วนกล้องด้านหลังรายละเอียดมีดังนี้
ทั้งหมดถือว่าเป็นการปรับจูน Software จากทาง Hasselblad รุ่นที่ 3 ที่เพิ่มเรื่องของการการปรับสีให้ธรรมชาติดีขึ้น พร้อมกับมี Multi Spectral Sensor ที่มีทั้งหมด 13 Channel และมี Hasselblad Portrait Mode ทำให้สามารถเลือกใช้การละลายเหมือนกับใช้เลนส์ Portrait ของกล้องค่ายดัง
นอกจากนี้ยังมี TurboRAW HDR สามารถถ่ายภาพในรูปแบบของ RAW File และปรับแต่งสีสันได้หรือให้กล้องช่วยก็ทำได้เช่นเดียวกัน
ด้านขุมพลังไม่ต้องเดาอะไรมากเพราะใช้ Qualcomm Snapdragon 8 Gen 2 มาพร้อมกับ RAM 8GB / 16GB ส่วนพื้นที่ความจำ 128 / 256GB ด้วยกัน แบตเตอรี่มีขนาด 5000 mAh รองรับกำลังชาร์จไฟสูงสุด 100W (SuperVOOC) แต่ถ้าคุณอยู่สหรัฐอเมริกาจะได้ที่ชาร์จ 80W แบบ SuperVOOC เช่นเดียวกัน ข่าวร้ายครับ OnePlus 11 ไม่รองรับ Wireless Charge นะ
OnePlus 11 ยังใช้ OxygenOS อยู่การันตีอัปเกรด 4 ปีสำหรับเวอร์ชั่น และ 5 ปีสำหรับ Security Patch
และสีสันมีให้เลือกทั้ง Titan Black และ Eternal Green โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 699 ดอลล่าร์สหรัฐฯ หรือ 23,xxx บาท กับรุ่น RAM 8/128GB และ 799 ดอลล่าร์สหรัฐ หรือ 26,xxx บาท ในรุ่น RAM 16/256GB