โดยเทคโนโลยี MLA มีการทำงานแบบที่สม่ำเสมอมากขึ้นด้วยเลนส์หลายพันล้านเลนส์ภายในแผงจอ ซึ่งจะช่วยลดการสะท้อนด้วย พร้อมเปลี่ยนทิศทางของแสงสะท้อนไปข้างหลังจากด้านใน ทำให้รักษาระดับความสว่างในขณะที่ใช้พลังงานน้อยลงได้เมื่อเทียบกับจอ OLED แบบทั่วไป
อย่างไรก็ตาม แม้ว่า MLA จะปรับเส้นทิศทางของแสงได้เพื่อเพิ่มความสว่างของหน้าจอ แต่มุมมองของผู้ใช้จะทำให้ขอบเขตการมองเห็นของจอแสดงผลแคบลง และการใช้เทคโนโลยี MLA กับแผง OLED จะส่งผลให้ต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้นด้วย
ปัจจัยที่ซับซ้อนอีกคือชุดวัสดุที่ซัพพลายเออร์ทั้งสองรายพัฒนาขึ้นมีความแตกต่างกัน และยังคงไม่ได้ตามมาตรฐานของแอปเปิล ทำให้การตัดสินใจของ แอปเปิลเหมือนขึ้นอยู่กับว่า จะสามารถปรับปรุงประสิทธิภาพของวัสดุการผลิตจอ OLED ได้หรือไม่ จนกว่าจะถึงช่วงเวลาผลิตจอในช่วงครึ่งหลังของปี 2024
ต่างจาก Samsung ที่มีประสบการณ์ในการใช้ MLA กับแผง OLED มาแล้วกับ Galaxy S Ultra บางรุ่นของตัวเอง และยังได้ส่งแผง OLED ที่ใช้ MLA ให้กับผู้จำหน่ายมือถือในจีนด้วย เช่น Vivo
ส่วน LG ก็ได้ใช้ MLA กับสมาร์ตทีวี OLED ขนาดใหญ่บางรุ่น แต่ไม่มีประสบการณ์ในการนำไปใช้กับแผงจอขนาดเล็กหรือขนาดกลางเลย ทำให้ทิศทางที่จะถูกปรับแตกต่างจาก Samsung
แต่ในอนาคตเราก็อาจจะได้เห็นจอแสดงผล microLED ขั้นสูงที่แอปเปิลเลือกที่จะผลิตเอง แทนการพึ่งพาซัพพลายเออร์อย่าง Samsung และ LG ก็เป็นได้ เพื่อให้ทุกอย่างที่ใช้ผลิตมาจากเทคโนโลยีของตัวเองให้มากที่สุด