สร้างสรรค์คอนเทนต์แบบมืออาชีพด้วยวิดีโอกล้องหน้า 4K 60FPS
Infinix ZERO 30 5G ชวนสัมผัสประสบการณ์การใช้งานที่เหนือกว่าด้วยกล้องหน้าความละเอียด 50MP ที่สามารถถ่ายวิดีโอด้วยความคมชัดสูง 4K พร้อมเฟรมเรท 60FPS ทำให้ทุกคนสามารถบันทึกทุกช่วงเวลาดี ๆ ของชีวิตด้วยความละเอียดและความคมชัด ตลอดจนยังเอาใจผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายวิดีโอแบบภาพยนตร์
โดยจะมีโหมดถ่ายวิดีโออันเป็นเอกลักษณ์ที่ช่วยครีเอทผลงานได้อย่างมืออาชีพ เสมือนทุกคนเป็นผู้กำกับตัวจริง อีกทั้งยังมีแฟลช Dual Micro-slit ที่ช่วยทำให้ถ่ายวิดีโอได้ในทุกสภาพแสง ด้วย Phase Detection Auto Focus (PDAF) จึงทำให้ภาพออกมาสวย คมชัด ในทุกครั้งที่ถ่ายเซลฟี่หรือบันทึกวิดีโอ และยังมีโหมด Movie Filter ในการถ่ายวิดีโอสัดส่วน 2.35:1 ที่ให้ภาพเสมือนถ่ายภาพยนตร์ หรือการใช้ Dual View เพื่อถ่ายภาพเคลื่อนไหวจากกล้องทั้งสองด้าน โดยจะใช้ได้ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังไปพร้อมๆ กัน
ด้านคุณภาพกล้องหลังของ Infinix ZERO 30 5G รุ่นนี้มาพร้อมกล้องหลัง 108MP ที่ทำให้ภาพออกมาคมชัดแม้จะอยู่ในที่ที่มีแสงน้อยด้วยเซนเซอร์ขนาดใหญ่ 1/1.67 นิ้ว และเลนส์กระจกที่สามารถจับแสงได้ถึง 10% มากกว่าเลนส์ทั่ว ๆ ไป พร้อมผสานเทคโนโลยี OIS และ EIS เพื่อให้ภาพและวิดีโอไม่สั่น และรุ่นนี้ยังให้เลนส์ซูมถึง 3 เท่า จึงทำให้ได้ภาพความละเอียดสูงแม้ในระยะไกล และยังมีเลนส์กว้าง 120 องศา ที่ช่วยให้สามารถถ่ายมุมกว้างได้อย่างน่าประทับใจ
สัมผัสดีไซน์และประสบการณ์ภาพระดับพรีเมียม ด้วยหน้าจอทรงโค้ง 3D AMOLED ลื่นไหล 144Hz
ตื่นเต้นกับเสน่ห์ที่เร้าใจด้วยการออกแบบตัวเครื่องแบบ 'Golden Hour' ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากเฉดสีอันน่าหลงใหลของท้องฟ้ายามพระอาทิตย์อัสดง ด้วยสีแบบไล่ระดับและพื้นผิวที่แวววาว โดยในรุ่น ZERO 30 5G ได้นำช่วงเวลามหัศจรรย์นั้น ที่ทำให้เกิดความรู้สึกอบอุ่น เงียบสงบ และความสง่างามอย่างแท้จริงมาไว้ในมือคุณ
สำหรับในรุ่นนี้ได้มีการดีไซน์ให้ตัวเครื่องมีความพรีเมียม เรียบหรู ทันสมัย ด้วยหน้าจอโค้งขอบสีทอง กับกรอบที่แคบเพียง 2.8 มม. จึงทำให้เป็นสมาร์ตโฟนที่เพรียวบางและมีสไตล์ จับถนัดมือ ที่พร้อมมอบประสบการณ์การรับชมภาพคอนเทนต์ความบันเทิงต่าง ๆ ได้อย่างสมจริงและไร้รอยต่อ อีกทั้งยังเหนือชั้นด้วยหน้าจอคมชัด AMOLED 10-bit ด้วยอัตรารีเฟรชเรทที่เร็วเป็นพิเศษ 144Hz และอัตราความไวในการสัมผัสหน้าจอที่รวดเร็ว 360Hz
จึงทำให้ทุกการปัดและสัมผัสลื่นไหล พร้อมให้ทุกคนสามารถรับชมภาพระดับพรีเมียมที่ไม่เหมือนใคร นอกจากนี้ ZERO 30 5G มาพร้อมกับกระจก Corning® Gorilla® ที่กันการตกกระแทกได้ทั้งสองด้าน ให้ความทนทานและความแข็งแกร่งเป็นพิเศษ ทำให้ทนต่อการตกหล่นและแรงกระแทกได้สูง
เหนือกว่าด้วยประสิทธิภาพหน่วยความจำ และผสาน RAM สูงสุดได้ถึง 21GB
สำหรับ Infinix ZERO 30 5G มาพร้อมกับชิปเซ็ตประมวลผลระดับเรือธง Dimensity 8020 5G ขนาด 6 นาโนเมตร ผสานประสิทธิภาพกับตัวประมวลผลแบบ octa-core ขั้นสูง ขนาด 6nm จาก TSMC CPU สูงสุดถึง 2.6Hz ที่ช่วยยกระดับความเร็วในการใช้งานแอปฯ รองรับไฟล์เกมขนาดใหญ่ ๆ
และทำให้การเชื่อมต่อราบรื่น หมดปัญหาเรื่องเครื่องช้าหรือกระตุก และยังมี Cortex-A78 สูงสุด 2.6GHz ที่ทำให้การใช้งานลื่นไหลมากยิ่งขึ้น โดยรุ่นนี้จุใจไปกับการผสานแรมสูงสุดถึง 21GB (12+9GB โดยใช้เทคโนโลยีฟิวชั่นเมมโมรี่) ที่มาพร้อม ROM สูงถึง 256 GB จึงทำให้สามารถรองรับการถ่ายวิดีโอคุณภาพสูง 4K ที่ไม่ว่าจะถ่ายนานแค่ไหน ก็ไม่ต้องกังวล
อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี UPS ที่ Infinix พัฒนาขึ้นเองด้วยการออกแบบมาเพื่อปรับปรุงการเชื่อมต่อในสถานการณ์สัญญาณอ่อน ด้วยการออกแบบเสาอากาศใหม่ โดยเทคโนโลยี UPS จะเข้ามาสลับเสาอากาศเพื่อปรับจุดรับสัญญาณได้อัตโนมัติ เพื่อเร่งความเร็วเครือข่าย และลดอัตราความล่าช้าให้เกิดความหน่วงต่ำในขณะเล่นเกม หรือดาวน์โหลดคอนเทนต์ต่างๆ และดูวิดีโอ ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้งานหรือเหล่าครีเอเตอร์สามารถเพลิดเพลินได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่ขาดตอน
ทั้งนี้ อินฟินิกซ์ยังตั้งใจมอบความพิเศษด้วยการจัด Global Vlog Campaign ซึ่งเป็นแคมเปญประกวด Vlog ระดับโลก ที่มีการจัดขึ้นในหลายประเทศ รวมถึงในประเทศไทยก็เข้าประกวดด้วยเช่นกัน โดยมีจุดประสงค์เพื่อส่งเสริมให้คนรุ่นใหม่ถ่ายทอดเรื่องราวของตนเอง เพราะเราเชื่อมั่นว่าทุกคนสามารถเป็นนักเล่าเรื่องได้ โดย Infinix
จับมือกับ TikTok และ CapCut ในการสร้างเทมเพลตสุดพิเศษ 4 แบบ ให้ทุกคนได้เลือกใช้ และร่วม challenge ด้วยกัน ซึ่งประเทศไทยจะเริ่มแคมเปญในวันที่ 25 กันยายน 2566 โดยใช้แฮชแท็ก #CaptureYourOwnStory โดยผู้ชนะจะได้รับรางวัลรวมมูลค่าสูงสุด 50,000 บาท สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดตามรายละเอียดกิจกรรมได้เร็ว ๆ นี้ ทางช่องทางของอินฟินิกซ์
รายละเอียดสเปกของ Infinix ZERO 30 5G