เปิดตัว Apple Watch Ultra 2 สีใหม่ ไทเทเนียมดำ พร้อมสาย Milanese Loop ไทเทเนียมใหม่

แอปเปิล เปิดตัว Apple Watch Ultra 2 ในรูปลักษณ์ใหม่สุดโฉบเฉี่ยวด้วยผิวสัมผัสไทเทเนียมดำ พร้อมด้วยสาย Milanese Loop ไทเทเนียมรุ่นใหม่ ที่ออกแบบมาเพื่อกิจกรรมทางน้ำโดยเฉพาะ นาฬิกาสมาร์ทวอทช์รุ่นล่าสุดนี้มาพร้อมกับคุณสมบัติอันทรงพลังบน watchOS 11 ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถติดตามและวิเคราะห์การออกกำลังกายได้อย่างละเอียดยิ่งขึ้น

Apple Watch Ultra2 ถือเป็นนาฬิกาสปอร์ตที่ทรงพลังที่สุดของ Apple โดยมาพร้อมคุณสมบัติที่ครอบคลุมสำหรับนักกีฬาและนักผจญภัยทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นการติดตามการออกกำลังกายแบบเข้มข้น การวัดสัญญาณชีพที่แม่นยำ หรือการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่ท้าทาย นอกจากนี้ ด้วยผิวสัมผัสไทเทเนียมดำแบบใหม่ ยังเพิ่มความสวยงามและความทนทานให้กับตัวเรือน

ผิวสัมผัสไทเทเนียมดำใหม่ สวยงามทนทาน

ผิวสัมผัสไทเทเนียมดำใหม่ของ Apple Watch Ultra2 เกิดจากกระบวนการผลิตที่ซับซ้อน โดยใช้เทคนิคการพ่นทรายแบบเฉพาะและการเคลือบผิวด้วยไอสารโดยใช้คาร์บอนที่มีลักษณะคล้ายเพชรบนไทเทเนียมเกรด 5 ส่งผลให้ตัวเรือนมีความทนทานและทนต่อรอยขีดข่วนเป็นพิเศษ กระบวนการนี้ไม่เพียงแต่สร้างความสวยงามให้กับนาฬิกา แต่ยังเพิ่มความแข็งแรงให้กับโครงสร้างโดยรวมอีกด้วย

นอกจากนี้ ด้านหลังของตัวเรือนยังทำจากเซอร์คอเนียสีเข้มที่เข้ากันได้อย่างลงตัว สร้างความสวยงามและความทนทานในทุกมุมมอง วัสดุนี้ไม่เพียงแต่สวยงาม แต่ยังมีคุณสมบัติในการต้านทานการเกิดรอยขีดข่วนและการสึกหรอจากการใช้งานประจำวัน

สายนาฬิกายอดนิยมอย่าง Trail Loop, Alpine Loop และ Ocean Band ก็ได้รับการอัปเดตให้มีตัวเลือกฮาร์ดแวร์ใหม่ทั้งแบบไทเทเนียมธรรมชาติและไทเทเนียมดำ เพื่อเพิ่มความสมบูรณ์แบบให้กับผิวสัมผัสสีดำใหม่นี้ การปรับปรุงนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเลือกสายที่เข้ากับสไตล์และการใช้งานของตนได้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกายหรือการสวมใส่ในชีวิตประจำวัน

รองรับกิจกรรมในทุกที่ทุกสภาพภูมิประเทศ

Apple Watch Ultra2 ได้รับการออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานในทุกสภาพแวดล้อม ด้วยจอภาพที่สว่างที่สุดเท่าที่ Apple เคยออกแบบมา โดยมีความสว่างสูงสุดถึง 3,000 นิต ทำให้สามารถมองเห็นได้ชัดเจนแม้ในสภาพแสงที่สว่างจ้า คุณสมบัตินี้มีประโยชน์อย่างมากสำหรับนักกีฬาและนักผจญภัยที่ต้องใช้งานนาฬิกาในสภาพแวดล้อมกลางแจ้งที่มีแสงแดดจ้า

นอกจากนี้ ระบบ GPS ความถี่คู่ที่แม่นยำยิ่งขึ้น ที่ใช้โมเดลสำหรับดาวเทียมและสัญญาณที่ล้ำหน้า อัลกอริทึมแบบเฉพาะสำหรับระบุตำแหน่ง และข้อมูลจาก Apple Maps เพื่อมอบความแม่นยำในการระบุตำแหน่งที่สูงที่สุดในบรรดานาฬิกาสปอร์ตทั้งหมด ช่วยให้ผู้ใช้สามารถติดตามระยะทาง แผนที่เส้นทาง และตัวชี้วัดต่างๆ ได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น

ความแม่นยำของ GPS นี้มีประโยชน์อย่างมากสำหรับนักวิ่งระยะไกล นักปั่นจักรยาน และนักกีฬาประเภทอื่นๆ ที่ต้องการข้อมูลที่แม่นยำเกี่ยวกับระยะทางและเส้นทางที่พวกเขาได้เดินทางไป นอกจากนี้ ยังช่วยในการนำทางสำหรับนักเดินป่าและนักผจญภัยที่ต้องการความแม่นยำในการระบุตำแหน่งในพื้นที่ห่างไกล

นาฬิกาสปอร์ตที่เหมาะสำหรับนักกีฬาและนักผจญภัย

Apple Watch Ultra 2 เป็นนาฬิกาสปอร์ตที่เหมาะสำหรับนักกีฬาและนักผจญภัยทุกประเภท โดยรองรับกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างหลากหลาย

• นักวิ่ง: สามารถใช้ตัวชี้วัดขั้นสูง มุมมองขณะออกกำลังกายที่ปรับแต่งได้ โซนอัตราการเต้นของหัวใจ และเส้นทางการแข่งขัน พร้อมแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานถึง 12 ชั่วโมงสำหรับการออกกำลังกายกลางแจ้ง นอกจากนี้ ยังมีโหมดประหยัดพลังงานที่ช่วยให้ใช้งานได้นานถึง 35 ชั่วโมง เหมาะสำหรับการวิ่งระยะไกลหรือการแข่งขันมาราธอน
• นักปั่นจักรยาน: สามารถดูการออกกำลังกายในรูปแบบกิจกรรมสดบน iPhone หรือเชื่อมต่ออุปกรณ์เสริมการปั่นจักรยานที่รองรับ Bluetooth เพื่อดูตัวชี้วัดเพิ่มเติม เช่น รอบขา และค่าประมาณโดยอัตโนมัติของขีดจำกัดของพลังที่ใช้ได้ ข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้นักปั่นสามารถปรับปรุงประสิทธิภาพและเทคนิคการปั่นจักรยานของตนได้
• นักว่ายน้ำ: มีการตรวจจับท่าว่ายน้ำอัตโนมัติและการนับรอบ พร้อมการรับรองมาตรฐาน WR100 สามารถดูอุณหภูมิของน้ำได้โดยตรงในระหว่างการว่ายน้ำในสระและว่ายน้ำกลางแจ้ง คุณสมบัตินี้มีประโยชน์อย่างมากสำหรับนักว่ายน้ำที่ต้องการติดตามประสิทธิภาพและความก้าวหน้าในการฝึกซ้อม
• นักเดินเขา: มีประสบการณ์เส้นทางที่ได้รับการปรับปรุงด้วยแผนที่ออฟไลน์ คำแนะนำแบบเลี้ยวต่อเลี้ยว และคุณสมบัติจุดอ้างอิง ช่วยให้นักเดินเขาสามารถนำทางในพื้นที่ห่างไกลได้อย่างมั่นใจ แม้ในพื้นที่ที่ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์
• นักดำน้ำ: สามารถใช้แอป Oceanic+ เพื่อเปลี่ยน Apple Watch Ultra ให้กลายเป็นไดฟ์คอมพิวเตอร์ พร้อมคุณสมบัติใหม่สำหรับนักดำน้ำสนอร์เกิล เช่น การแสดงสถานที่ดำน้ำยอดนิยมในบริเวณใกล้เคียง ข้อมูลสภาพอากาศ อุณหภูมิน้ำ และสภาวะน้ำขึ้นน้ำลง
• นักกอล์ฟ: มาพร้อมชุดแอปของบริษัทอื่นที่ช่วยให้ผู้ใช้เข้าถึงข้อมูลสนามกอล์ฟ และเครื่องมือปรับปรุงการเล่น โดยใช้ API ตรวจจับการเคลื่อนไหวความถี่สูงเพื่อวิเคราะห์วงสวิงและช่วยปรับปรุงเทคนิคการเล่นกอล์ฟ

นอกจากนี้ ด้วยดีไซน์ไทเทเนียมที่ทนทานและทนต่อการกัดกร่อน จึงเหมาะสำหรับกิจกรรมกลางแจ้งอื่นๆ อีกมากมาย เช่น การพายเรือ เล่นสกี สโนว์บอร์ด และเทนนิส โดยสามารถทนต่อสภาพอากาศที่รุนแรงและการใช้งานหนักได้เป็นอย่างดี

เล่นเสียงผ่านลำโพงได้แล้ว

เป็นครั้งแรกที่ผู้ใช้สามารถเล่นเสียงผ่านลำโพงในตัวทั้งสองตัวบน Apple Watch Ultra 2 ได้ โดยสามารถฟังเสียงจากแอปต่างๆ มากมาย เช่น Apple Music, Apple Podcasts, Apple Books และแอปของบริษัทอื่นๆ รวมถึงการโทรเข้าออกได้โดยตรงจากนาฬิกา

คุณสมบัตินี้เพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้ที่ต้องการฟังเพลง พอดแคสต์ หรือออดิโอบุ๊คระหว่างออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมกลางแจ้ง โดยไม่จำเป็นต้องพกอุปกรณ์เสริมอย่างหูฟังไร้สาย ซึ่งอาจไม่เหมาะกับบางสถานการณ์ เช่น การว่ายน้ำหรือการปีนเขา นอกจากนี้ ยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยสำหรับนักวิ่งหรือนักปั่นจักรยานที่ต้องการรับรู้เสียงรอบข้างขณะออกกำลังกายกลางแจ้ง

การเล่นเสียงผ่านลำโพงยังมีประโยชน์สำหรับการใช้งานฟังก์ชันการโทรแบบแฮนด์ฟรี ทำให้ผู้ใช้สามารถรับสายและสนทนาได้โดยไม่ต้องหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ซึ่งสะดวกอย่างมากในสถานการณ์ที่มือไม่ว่างหรือไม่สะดวกในการใช้โทรศัพท์

watchOS 11 มาพร้อมคุณสมบัติใหม่มากมาย

watchOS 11 นำเสนอคุณสมบัติใหม่ๆ มากมายสำหรับ Apple Watch Ultra2 ได้แก่:

• วงแหวนกิจกรรมที่ปรับแต่งได้: ผู้ใช้สามารถกำหนดเป้าหมายของวงแหวนกิจกรรมตามวันในสัปดาห์ได้ เพื่อให้เหมาะกับตารางชีวิตที่แตกต่างกันในแต่ละวัน นอกจากนี้ ยังสามารถหยุดวงแหวนได้ชั่วคราวโดยไม่กระทบต่อรางวัลสถิติต่อเนื่อง ซึ่งเหมาะสำหรับวันพักผ่อนหรือช่วงที่มีอาการบาดเจ็บ
• แอปออกกำลังกายที่ครอบคลุมมากขึ้น: รองรับประเภทการออกกำลังกายที่หลากหลายขึ้น เช่น กีฬาภาคสนาม สกีลงเขา สกีวิบาก สโนว์บอร์ด กอล์ฟ และพายเรือกลางแจ้ง โดยสามารถติดตามระยะทางได้โดยใช้การระบุตำแหน่ง GPS ที่แม่นยำยิ่งขึ้น
• วิดเจ็ตซ้อนอัจฉริยะ: ช่วยให้ผู้ใช้เข้าถึงข้อมูลสำคัญได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายยิ่งขึ้น โดยใช้ปัญญาประดิษฐ์ในการแสดงข้อมูลที่เกี่ยวข้องและเป็นประโยชน์ตามบริบทการใช้งานของผู้ใช้
• หน้าปัดนาฬิการูปภาพใหม่: ใช้การเรียนรู้ของระบบเพื่อช่วยให้ผู้ใช้เลือกและจัดองค์ประกอบภาพที่ดีที่สุดสำหรับหน้าปัดนาฬิกา ทำให้การสร้างหน้าปัดที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวเป็นเรื่องง่าย
• แอปแปลภาษาและเช็คอิน: เพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทางและการสื่อสารในต่างประเทศ โดยสามารถแปลภาษาและเช็คอินสถานที่ได้โดยตรงจาก Apple Watch
• คำสั่งนิ้ว “แตะสองครั้ง”: ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเลื่อนดูแอปต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วและสะดวกสบายยิ่งขึ้น โดยไม่ต้องสัมผัสหน้าจอ ซึ่งมีประโยชน์อย่างมากในสถานการณ์ที่มือไม่ว่างหรือสวมถุงมือ
• สรุปการแจ้งเตือนอัจฉริยะ: ใช้ Apple Intelligence เพื่อจัดระเบียบและสรุปการแจ้งเตือนให้อ่านง่ายและเข้าใจได้อย่างรวดเร็ว ช่วยลดความรู้สึกท่วมท้นจากการแจ้งเตือนที่มากเกินไป

นอกจากนี้ watchOS 11 ยังมาพร้อมแอปสัญญาณชีพใหม่ที่ช่วยให้ผู้ใช้ดูตัวชี้วัดหลักๆ ด้านสุขภาพในตอนกลางคืนได้อย่างรวดเร็วและเข้าใจบริบทด้านสุขภาพของตนเองได้ดียิ่งขึ้น รวมถึงคุณสมบัติความหนักเบาในการฝึกใหม่ที่วัดว่าความเข้มข้นและระยะเวลาในการออกกำลังกายส่งผลต่อร่างกายของผู้ใช้อย่างไรเมื่อเวลาผ่านไป

Apple Watch Hermès Ultra 2

Apple Watch Hermès Ultra2 เปิดตัวเป็นครั้งแรกโดยผสมผสานตัวเรือนไทเทเนียมธรรมชาติกับความหรูหราด้วยสาย Hermès แบบ En Mer ใหม่ในสี Bleu Nuit หรือสีกรมท่าเข้ม พร้อมหน้าปัดนาฬิกา Hermès Maritime สุดพิเศษ สายแบบ En Mer โดดเด่นด้วยลายทอเป็นริ้วๆ ในแนวทแยงที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากการเดินเรือ

สายแบบ En Mer นี้รังสรรค์จากผ้าถักลายนูนเนื้อแน่นที่ให้ทั้งความทนทานและนุ่มสบาย เหมาะสำหรับการสวมใส่ในชีวิตประจำวันและกิจกรรมทางน้ำ หัวล็อคไทเทเนียมแบบกว้างช่วยยึด Apple Watch Hermès Ultra2 ให้อยู่บนข้อมืออย่างกระชับพอดีแม้จะทำกิจกรรมที่ใช้แรงมาก เช่น การดำน้ำ การแล่นเรือใบ หรือกีฬาทางน้ำความเร็วสูง

หน้าปัดนาฬิกา Hermès Maritime แบบใหม่มาพร้อมตัวเลขที่มองเห็นได้ชัดเจนในแบบอักษร Cape Cod สุดคลาสสิกของ Hermès พร้อมขอบรอบนอกที่กว้างขวางเพื่อแสดงวินาที เมื่อกดปุ่มแอ็คชั่น หน้าปัดนาฬิกาจะกลายเป็นตัวนับเวลาถอยหลังสุดพิเศษที่ได้รับแรงบันดาลใจจากการแข่งเรือ ซึ่งไม่เพียงแต่สวยงามแต่ยังมีประโยชน์สำหรับนักแล่นเรือและผู้ที่ชื่นชอบกีฬาทางน้ำ

ราคาและการวางจำหน่าย

Apple Watch Ultra 2 ในแบบไทเทเนียมดำสามารถสั่งซื้อได้แล้ววันนี้ในกว่า 49 ประเทศและภูมิภาคทั่วโลก รวมถึงออสเตรเลีย แคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี อินเดีย ญี่ปุ่น สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา โดยจะวางจำหน่ายในร้านเริ่มตั้งแต่วันศุกร์ที่ 20 กันยายน ราคาเริ่มต้นที่ 29,900 บาท สำหรับ Apple Watch Hermès Ultra จำหน่ายในราคา 50,500 บาท

สายใหม่รวมถึงสาย Milanese Loop ไทเทเนียมจะพร้อมให้สั่งซื้อได้วันนี้ทาง apple.com/th/store และในแอป Apple Store โดยจะวางจำหน่ายในร้านเริ่มตั้งแต่วันศุกร์ที่ 20 กันยายน ส่วน watchOS 11 จะพร้อมให้ใช้งานสำหรับ Apple Watch Series 6 หรือใหม่กว่าในวันจันทร์ที่ 16 กันยายน และต้องใช้กับ iPhone Xs หรือใหม่กว่าที่ใช้งาน iOS 18